การท่องเที่ยวแบบรุถ..เที่ยวแบบรับ..หรือปรับระบบก่อนดี.
การท่องเที่ยวในมุมมองของคนไปเที่ยว เชื่อว่านี่ไม่ใช่ปะเด็นใหม่ แต่อย่างใดและมีการพูดถึงกันทุกเมื่อเชื่อวัน ทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่กล่าวเรื่องเศษฐกิจจะผสมปนไปกับข่าวการฉีดวักซีน วันนี้ผมขอเรียงความรู้สึกและมองมุมที่ต่างออกไปปะสาคนที่เที่ยว หรือชอบที่จะออกจากถิ่นไปมองโน่น.! นี่.! นั่น.! ที่มันต่างจากที่คุ้นเคย หรือไปที่คุ้นเคยแต่ไม่ปล่อยนักในแต่ละปี อารมณ์โหยหาที่ขาดหายแรมปี กับข้อจำกัดที่มีอยู่ในปัจจุบัน มันได้ผูกขังวิถีชีวิตคนเราเป็นอย่างมาก แรกๆก็รู้สึกว่ารับได้อยู่ ที่ต้องติดอยู่ที่เดิมนานๆ มันก็เป็นสิ่งไม่ที่สังคมทุกวันนี้ไม่คุ้น แต่ก็ทนได้สักพักใหญ่ๆ ถึงทุกวันนี้มันเริ่มอิ่มตัวมากขึ้น จากความกดดันการทำมหากินที่จำกัด การงาน และเหมือนถูกขังไม่ให้ได้เสพ รูปใหม่แปลกๆ กลิ่นใหม่ๆหรือเก่าที่จวญจะเลือน รสที่สดๆ สัมผัสอายกลิ่นธรรมรมณ์อย่างลึกซึ้งเข้าถึงอณูใจ.. มันเลยเป็นเหตุของความโหยหาอย่างแรงกล้า หาทางออกไปที่ไกลๆ แบบที่ก่อนยังไม่มีเหตุอะไรเหมือนวันนี้หลายๆความทรงจำมันเริ่มเลือนหายไป มีเพียงภาพสะท้อน ในทรงจำ เรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ในรูปของการนำเสนอผ่านมีเดียพอให้ได้เห็นเพียงระลึกอดีตเท่านั้น แต่มันก็ไม่เต็มอิ่มมากพอิ แต่ก็นั่นแหละครับ ทำให้ผู้เกียวข้องหลายประเทศพยายามเรียบเร่งเพื่อให้มีการท่องเทียวให้เร็วมากขึ้น หาหนทางให้เศษฐจของประเทศตนเองจะได้พื้นตัว
เหลียวมองหลัง..แลไปเบื้องหน้า
ในมุม..มอง.. การเร่งร้อนเพื่อให้เกิดกิจกรรม..คนในเที่ยวใน คนนอกเที่ยวใน ดังกล่าว จากความไม่พร้อมหลายๆด้านเป็นเหตุให้เสียโอกาสมากกว่าที่จะได้กลับมา ถึงแม้ต้นทุนเดิมยังคงเป็นฐานอยู่ก็ตาม เช่นที่พัก ร้านอาหาร สถานเที่ยวดูต่างๆ ไม่เถียงเลยเรื่องนี้ มันมีอยู่เพียงแต่จะติงให้เห็นแง่มุมสักหน่อย ตลอดหลายปีที่เกิดปัญหาโรคระบาด มันทำให้หน่วยงานได้พัฒนาสถานที่เพื่อเตรียมรับให้พร้อม อยู่หรือเปล่า หรือตามยถากรรมดังเป็นมา** (ยกตัวอย่าง สวนสัตว์ , อุทยาน, สวนป่า, ร้านอาหาร ,แหล่งเที่ยวทางทะเล วัด -โดยเฉพาะวัด มันถึงเวลาหรือยัง ที่ตู้มันจะน้อยลงจากที่วางระกะเต็มไปหมด มันสะท้อนทางพานิจย์ มากจนเกินไป..เก็บหาพัฒนาวัดจนเกินงาม ) .
** กฏระเบียบทั่วไป ส่งเริมการขายประจำสถานที่ท่องเที่ยว เอาเปรียบผู้มาซื้ออยู่หรือเปล่าใครคุมดูแล ปรับปรุงพัฒนาหรือยัง เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องพัฒนาอบรมให้ลึกซึ้ง ถูกต้องฝังลึกรู้ถึงความหวงแหนและภูมิใจในหน้าที่หรื่อยัง คิดถึงสถาบันที่เป็น ที่ทำงานมากกว่าส่วนตัวหรือเปล่า มันบอกถึงความเสียสละ รักหวงแหน และดูแลรักษาให้อยูในสภาพคอยให้ผู้มาเที่ยวดู มากว่าที่คอยจะเอาอย่างเดียวโดยไม่พัฒนาปรับปรุงใดๆ
** เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้เกี่ยวข้อง ปฏิบัติดี และมีการปรับทัศนคติที่ดีพร้อมให้ผู้คนเมื่อเข้าใกล้หรือพึ่งพาได้ไหม ( ถ้าเป็นแบบทุกวันนี้ไม่เวิร์ค ปัญหาจะตามมาให้เสื่อมเสีย เหมื่อนโรคร้ายบั่นทอนบรรญากาศการท่องเที่ยวเรื่อยไป
*หลายปะเด็นมองให้ลึกลง มันได้เวลา ควรปรับปรุง ปรับเปลี่ยนอย่างมาก ทุกวันนี้ผมไปต่างจังหวัดไกลๆ ผมไม่ได้กลัวคนในถิ่นนั่น ผมกลัวเจ้าพนักงานที่ผ่านเส้นทาง หรือเจ้าพนักงานในถิ่น มากกว่า ภาพสะท้อน หรือสตอรี่ตราบวันนี้ มาตฐานความเชื่อมั่นมันไม่มี
ต้องเริ่ม ต้องปรับ ต้องเปลี่ยน ใช้เวลานี้ให้ได้ประโยชน์..ใช่มันใช้เวลา แต่มันจะได้ เหมือนเล่นเฟสใหม่ๆ 15 ปีก่อน วินโดว์95 ผมมีเพื่อน1คนตลอดสองปี Hi5 ยังดูดีกว่าเฟสมาก เฟสไม่ได้ปรับอะไร พอเขาปรับเรื่อยมา ถึงวันนี้ เขาใช้เวลา นานนะ ที่มองเราไม่เริ่มแก้ผมก็จนใจ ไปต่อยาก. เรื่องเหล่านี้แทนที่จะปรับปรุงพัฒนา สร้างสตอรี่ขึ้นมาใหม่ให้ดี ให้มีความเชื่อมั่น เข้มข้นทุกๆด้าน เพื่อหวังดึงดูดจากผู้คนให้เกิดการโหยหาจะมาเที่ยว ย้ายไปชั่วคราวต่างถิ่น เยี่ยมชม พักค้าง มากิน จับจ่ายใช้สอยให้มาก สตอรี่ชี้ให้เห็นว่าอยู่ที่ไหนก็ "ปรอดภัย " ไม่ใช่ให้เกิดเรื่องถึงตาย..แล้วมาแก้" นั่นมันมันแบบเก่า ปลายของเหตุทั้งหมด อย่าลืมว่าความเชื่อมั่น มันหายไปแล้วมันจะมีมาอีกยาก ยิ่งทุกวันนี้ขยันสร้างสตอรืที่เลวทับถมอัดแน่นลงไปอีก.
วันนี้มาสร้างสตอรี่ไหม่เถอะ สตอรี่ทางที่ดีๆ เอาจริงๆจังกันเถอะ หมดเวลาของคนที่ที่มีทัศนคติเลวๆแล้ว ระบบโลกได้เปิดหน้าให้เห็น อ้าปากเห็นไรฟันกันหมดแล้ว ลิ้นอันที่แถ โกหก เลิกทำPropaganda แบบผิดๆ เลิกกันเสียเถอะ **มาทำPropaganda แบบใหม่ที่ตรงไปตรงมากัน.
สร้างสตอรี่ ปรับเที่ยวแบบยั่งยืน
* สร้างสตอรี่ พัฒนาอบรม ความรู้ใหม่ๆ ภาคบริการทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน คนธรรมดา ( หมดเวลาแถ โกหก มดเท็จแล้วยุคสมัยนี้ ) ระบบมีส่วนร่วมอย่างบูรณาการที่ดี เป็นสตอรี่ ที่หลายประเทศมองข้าม การสร้างเป็นเรื่องยากสักหน่อย แต่ต้องทำ ถึงแม้ความเลื่อมล้ำเป็นเหตุให้เกิดการพัฒนาคน มันจะยาก แต่การจัดการ ให้บุคลากรที่มีทักษะเหมาะสมให้อยู่ที่เหมาะสม ตามทักษะ เป็นต้นทางลดหรือก้าวข้ามไปสู่การพัฒนาคนที่ค่อยเป็นค่อยไปอย่างได้ผล รวมถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมด้วย องค์การที่ดี หรือหน่วยงานที่ดีๆ สตอรี่ดีจะเกิดความหวงแหนให้บูรณาการณ์ให้เป็นธรรมาภิบาลอย่างยั่งยืน* สร้างสตอรี่เรื่องความปรอดภัย เอาใจใส่ 24 ชั่วโมง ตรงไปตรงมา ( โกงไปโกงมาไม่เอา มีกฎลงโทษที่หนักถ้ามี ทุกเรื่อง ทุกองค์กรทั้งรัฐและเอกชน คนธรรมดา )
** ปรับปรุงพัฒนา สตอรี่ อาหารการกิน สะอาดปรอดภัย โปร่งใส ( โกงเอารัด เอาเปรียบ ไม่เอา มีกฎลงโทษที่หนักถ้ามี ทุกเรื่อง ทุกองค์กรณ์ทั้งรัฐและเอกชน คนธรรมดา )
** สร้างสตอรี่ พัฒนาสถานที่ให้ สวยพร้อม ดึงดูด สะอาดอยู่เสมอ มีเจ้าหน้าทีให้บริการที่เข้าใจ ดูแล รวมถึงรักษาให้เกิดความปรอดภัยหากเกิดเหตุ หรือสุดวิสัยก็ตาม
" มีอีกหลายเรื่อง ขอข้ามไปก่อน ทุกวันนี้เรากลับไปมองว่าเมื่อไหร่โรคมันจะหายไปเสียที แทนที่จะเอาเวลานี้ มาพัฒนาอย่างที่เกริ่นคร่าวๆให้ดู พื้นฐานเช้าชาม เย็นไม่เอาสักชาม ควรหมดไป ถึงมันฝังรากลึกมากในระบบ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ ดันไปอยู่ระดับบนเป็นส่วนใหญ่ "
การปรับทัศนคติคน อัตตาคน มันยากจริง..ยิ่งคนที่ไม่รัก ภาคภูมิหวงแหนองค์กรยิ่งแล้ว กลับนำองค์กรมาสร้างความด่างพร้อยไม่จบสิ้น เพียงเพื่อ สินจ้างรางวัลอันน้อยนิดของกลุ่มและตน อย่างที่ทราบเป็นข่าวกันทุกวี่วัน ผมเชื่อว่า คนที่เรียนฝังความรู้เก่าอันบกพร่ิอง ธรรมเนียมที่ไม่ดีเก่าๆไว้ อย่างเคยชินและสืบทอดอัตลักษณ์ ( จนเป็นสันดาน ) จนล้น..เป็นตัวตน มันยากมากที่จะเปลี่ยนดั่งคำเปรียบน้ำที่เต็มแก้ว..( และเป็นแก้วเคอะๆสกปรกที่ไม่ล้างขัดเสียมานานด้วย..แต่ก็ดันมีน้ำเต็มพร้อมไข่ยุง..พร้อมที่จะแตกลูกหลานมาดูดเลือดผู้คนอีก )
ถึงอย่างไรกาลหน้า...ผมก็เชื่อว่ามันจะเริ่มหมดลงแล้วในเวลาอันใกล้..ผมเองออกจากระบบมานานหลายปี ครั้งยังฉกรรจ์ ด้วยมองเห็นว่า ได้ค่าตอบแทนเท่านี้ มันมากกว่างานที่ทำ รู้สึกละอายใจมากที่รับเงินภาษี เมื่อเทียบกับคนอื่นถือว่าน้อยกว่ามากๆ เทียบงานต่องาน เลยระลึก..หากอยู่จนเลยวัยฉกรรจ์นี้ไป.. ถึงตอนนั้นเรี่ยวแรงลดน้อยลง ค่าตอบแทนก็คงสูงไม่น้อยเลย ยิ่งรู้สึกไม่ดีแน่ หากทำงานได้น้อยลงอีก ผมออกมาราวปลาย 3.1 วินโดว์ 95 ออกมาใหม่ๆ สมัยที่ออกมาจำได้ว่ารองผู้บริหารยังติดอยู่กับการใช้ 3.1 ข้างโต๊ะทำงานอยู่ วินโดว์ 95 - 98 Me2000 ออกไล่กันมาคอมๆแพงมากๆเมื่อเทียบกับสมัยนี้ ตอนนั้น อินเตอร์เน็ต สมัยนั้นก็ใช้ ล๊อกอินโฟร์ หมุนที่ 3 บาทแพงมากๆ เดี๋ยวได้ เดี๋ยวหลุดเชี่อมสารโทรศัพท์บ้าน จำเสียงได้สมัยนี้เสียงนั้นหาฟังยากแล้ว จ้างเด็กจบใหม่มาสอนคอมฯ หลาน ที่บ้าน ชั่วโมง 150-200 บาท ( 1ชั่วโมง 200 / 2ชั่วโมง 350 บาท )
ปรับทัศนคติให้เรียน..ให้รู้เรื่องความรู้ แก่ลูกหลาน
ผู้ปกครองเด็ก ควรให้ความสำคัญ การศึกษาของลูกหลาน ความรู้ต้องจ่ายให้เด็ก เข้าใจหลายท่านอาจยังพร่องขาด แต่ผมเชื่อว่าไม่ขัดสนแน่ๆ มีให้ไม่มากก็น้อย ถ้าเรามองมันสำคัญพอๆกับการกินการอยู่ "ผมมีทัศนคติ..กับการศึกษาอย่างนี้... "ความรู้คือการลงทุน" สั้นๆ ขอแนะนำ : หากท่านจะลงทุนให้ลูกหลาน หรือตระกูลของท่าน แนะนำลงทุนให้เรียน..ให้รู้เรื่องความรู้ ผลตอบแทนมันสูง ( หลักการลงทุนเขาเรียกจะได้ Revenue and Earning ไม่สิ้นสุดจะถูกต่อให้โตๆขึ้นเรื่อยไป )ข้อเตือนใจ ผู้ปกครองกับการศึกษา
"ข้อควรระวัง.! ข้อคิด.! ข้อเปรียบเทียบ.!ใดๆ ของผู้ปกครอง" การลงทุน ด้านการศึกษาท่านอย่าคลาดหวัง "หากมีข้อนี้อยู่ในใจ" พฤติกรรมที่ไม่ดีของท่าน มันจะแสดงออกมากดดันลูกหลานท่าน" ให้ระลึกเสมอท่านให้เขาได้ แบบนี้ดีกว่าทรัพย์สินเงินทอง คิดว่าให้เขามีความรู้เหมือนคำเปรียบ "ให้อุปกรณ์จับปลา ไปเรียนรู้เรื่องการจับปลา" ให้เป็นเครื่องมือ เรียนรู้ การใช้ปรับเทคนิค เป็นทักษะใหม่ๆ ให้เขาเกิดเป็นประสพการณ์ได้รู้วิธี ที่ต่างจากที่เราเคยหาเคยใช้ในแบบของเรา.ปลูกฝัง..ความซื่อสัตย์
ปลูกฝังความซื่อสัตย์ต่อตนเอง รักตนเองและลดความเห็นแก่ตัวเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และซื่อสัตย์ที่มีต่อความจริง (ความหมาย..ซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่ถูกต้อง -.ไม่หลับหูหลับตาอย่างแบบระบบปัจจุบัน. ) ปฎิบัติตนตรงไปตรงมา มีความรักหวงแหนความดี ไม่โกหก ชี้ให้เห็นเหตุและผล ของดีและเลว *กฎของเหตุที่พระองค์สอนไว้ ( เมื่อสิ่งนี้มี..สิ่งนี้ก็จะมี..เมื่อเหตุนี้ไม่มี..เหตุนีก็จะไม่มี ) เมื่อเหตุเป็นเหตุ..เหตุอีกอย่างก็จะมีจากเหตุนั้น.. สร้างเหตุดี ผลที่ดีก็จะมีขึ้น..สร้างเหตุที่ไม่ดี เหตุนั้นที่ไม่ดี ก็จะมีเช่นกัน...จากวันนี้ไป ก็เพียงหวังว่าแง่มุมที่ดีต่างๆ จะมีมามากขึ้นในสังคม ตัวแทนรุ่นต่อไปคือ..ลูกหลานเรา...ไฝ่ดีเป็นคนที่ดี ซื่อสัตย์ ทั้งต่อตัวเองและเพื่อนมนุษย์ พวกเขาจะมีทัศนที่ดี ทักษะการศึกษาที่เป็นแบบเปิดกว้างใหม่ๆจะเป็นเชื้อแตกหน่อผลิยอด และเป็นผลที่ดีสืบเป็นอนาคตให้ดีเรื่อยไปไม่สิ้นสุดในสังคมโลกมนุษย์ต่อไป.
ขอขอบคุณท่านที่แวะเวียนมาดู.. อ่าน..ขอขอบคุณจากใจครับ.