เที่ยวไทย..ใส่บาตรสะพานบุญ สุโขทัย

กลางเดือนกันยายน 64 ที่ผ่านมา ครอบครัวมีโอกาส แรกของปีที่ได้ออกไปธุระต่างจังหวัด ถึงแม้จะไม่ไกลมากนัก ผ่านแค่สามจังหวัด ถึงสี่จังหวัดชายขอบกลายๆ ทุกปีช่วงนี้จะเสมอมาที่ไปเป็นอย่างนี้

สะพานบุญวัดตระพังทอง
ติดต่อกันหลายปี ถือโอกาสเล่าเรื่อง ว่ารู้สึกอย่างไรแตกต่างปีก่อนหน้าที่สถานการณ์โรคระบาดระรอกสอง ระบาดครั้งก่อนหน้ายังไม่ครอบคุมทุกจังหวัด แต่ปีนี้ครอบคุมทั่วจนไม่ทราบเลยว่ามุมไหนของพื้น ที่ไดบ้างที่ไม่มีการระบาดของโรค ระรอกที่ระบาดรอบนี้จัดว่าเป็นรอบที่สี่ หรืออาจเรื่องเพื่อด้วยได้ว่าเหยียบระรอกที่ห้ามากกว่าก็ว่าได้ ถึงแม้จะฉีดวักชีนไปบ้างแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ด้านอุปทานที่เกิดกับอารมณ์ความรู้สึกมันเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ จะก้าวย่างไปไหนระวังเป็นพิเศษ  ถึงแม้จะป้องกันด้วยวิธีที่คุ้นเคยกันก็ตาม การพบปะกัน ประจัญหน้าพูดคุยมันเปลี่ยนให้เป็นแบบเดิมได้ยาก "เนี่ยเราไม่ได้แยกฟัน#ยิ้ม ให้เห็นแบบนั้นอีกแล้วหรือ" เป็นอย่างนี้จนบริษัทผลิตลิปสติกปิดโรงงานไปแล้ว คนส่วนมากไม่ทาลิปหันมาปิดปากกันหมด การเดินทางก็น้อย จากที่สินค้าข้ามถิ่น ส่งขายไม่ได้แต่เดิม ร้านค้า ตลาด ร้านอาหารปิดตัวไปหมด พืชผลทางการเกษตรก็ได้แค่ละแวกจังหวัดใกล้ 

โอกาสมองไปข้างหน้ามันปิดทางเดินให้หลายๆโอกาสของคนต้องจบลงด้วยการอยู่แต่บ้าน หากินกันไปตามปะสา ภาวะเงินฝืด เกิดจากการจ้างงานที่ลดลง กระทบเป็บลูกโซ่ ห่วงโซ่เหล่านี้กำลังเป็นสนิมเคอะขนาดใหญที่กัดกร่อน ภาคครัวเรือนกลายเป็นปัญหาระยะปานกลางและยาว 

หลายความหวังมะโณในใจว่าการท่องเที่ยวจะกลับมา ร้านรวงต่างจะเปิดขายของได้ เศษฐกิจจะพื้น การมะโณฝันกลางอากาศคล้ายสูบกัญชามันช่างน่าขันยิ่งนัก ทำไมทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้น ไม่ต้องถามผมให้มากความ คุณออกจากบ้านไปในละแวกนั้นคุณก็ได้คำตอบแล้ว ว่ามันอย่างไร และจะเป็นอย่างต่อไปในกาลหน้า ปี สองปี สามปี หรือไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แค่คุณถอดหน้ากากเดินนอกบ้านคุณเป็นดั่งเช่นตัวประหลาดไปแล้ว "ถาม..? อารมณ์ตอนนั้นคุณรู้สึกอย่างไร' นึกไม่ออกว่าญี่ปุ่นหน้าไหนมันจะมารับความรู้สึกอย่างนี้ด้วยอารมณ์แบบนั้น โอเค บ่นระยะนี้จบไป.

ที่จะเล่า.? จบกิจที่หมาย...สุดท้ายจากทำธุระกิจเสร็จก็ย้อนตามถนน ลานกะบือมุ่งขึ้นมาสุโขทัย ถนนมันโล่งมากรถเดินน้อยถนนสายนี้อาจเป็นเพราะขยายขอบเส้นทางใหม่ ขอบระหว่งทางน้ำท่วมปะ

ปลาย เท่าที่ดู ท่วมมากกว่าปีก่อนนนั้น สังเกตจากออกลานกะบือ เรื่อยมาน้ำท่วมนาไร่หลายจุด ระหว่างตลอดเส้นทาง ก่อนเข้าตัวเมืองสุโขทัย โดยมากปั๊มน้ำมันที่มีร้านสะดวกซื้อ จะคึกคักไปด้วยผู้คน แต่บัดนี้ปะปลายไม่มาก ส่วนใหญ่ขาถิ่นมากว่าต่างถิ่น

ก็แวะซื้อของตั้งใจจะพักค้างแรมโรงแรมที่หน้าวัดตระพังทอง รุ่งเช้าก็ตักบาตรกันที่สะพาน ข้าม บริเวณเขตอภัยทานวัดตระพังทอง อิ่มใจได้บุญดั่งตั้งใจใว้ มาถึงฟ้าปิด พอดีแจ้งที่พักไว้ล่วงหน้าราว 1 ชั่วโมง หากเป็นปีก่อนหน้าไม่ได้นะขอบอก ต้อง 1 วันครับ รอบนี้มาเงียบมากๆ ทุ่ม สองทุ่มเงียบจะสนิท เดินเที่ยว ก็ดีหากินไม่ยาก มีร้านค้าอยู่ ร้านตลาดยังทอดลูกชิ้นขายกัน เก็บร้านเร็วขึ้น ร้านอาหารระดับกลาง ขึ้นไปม้วนปิดกันหมด หายากสักหน่อย (รูปแสดงด้านบนของปีก่อนหน้า *ปีฝนตก) ดึกพอดีฝนตกด้วยถึงเช้า-เช้าการใส่บาตรทำบุญที่สะพาน ก็ข้ามสะพานไปเกาะกลางน้ำใส่บาตรบริเวณในศาลาพิธืที่เกาะกลางน้ำกัน ..สายออกจากโรงแรม..มาที่อุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย   โอ้.!..แม่เจ้าอุทยานแห่งนี้ช่างเป็นส่วนตัวกะไรนั่น.! มีเพียงเราแค่นั่นลือ.. เดินชมอุทยานแบบส่วนตัวเพียงครอบครัวเราเท่านั้นดั่งนิยายย้อนยุค ( เลยอยากจะไถ่ตะโกนออก.. มีใครอยู่แถวนี้บ้างลือหนอข้าพเจ้าเปิดราชธานีให้แล้วนะ มาบุกเมืองเราชมอุทยานให้บานอารมณ์เถิด..) อุทยานธานีของเราพร้อมรับพวกท่านแล้ว อุทยานแสนกว้างใหญ่มีเพียงเราสีคน ก็เลยนำรูปมาให้ดูความงามกัน ว่างไปเที่ยวบ้างนะครับ อย่าคิดมาก ปิดปาก ปิดจมูกเที่ยวไปเถอะ อย่าปิดตา มาดูรูปกัน...

สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์
ขอบคุณจากใจครับ..ที่แวะเวียนมา..ดู..อ่าน.!ครับ