More for - less for

More for less - less for More
หลายคนที่เป็นนักการตลาด และนักวางแผนการตลาดคุ้นเคยกันดี สำหรับท่านที่ไม่ทราบ ตามผมมาครับ หลักการวางแผนให้กับสินค้า หรือเรียกง่ายๆคือ ต้นทุนเท่าไหร่ ? จะขายเท่าไหร่ ? ให้เหมาะสมกับสินค้า ราคา + กำไร
ข้อ 1. more for less ( ขายมากกำไรน้อย ) ต้องการขายสินค้ามากชิ้น แต่ขอกำไรนิดหน่อย ปัจจัยหลักที่คิดใช้ข้อนี้จะมองไปที่ตลาดมีคู่แข่งเยอะ หรือ มองไปที่ การจับตลาดระยะยาวๆ ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะใช้ข้อนี้เป็นเบื้องต้น
ข้อ 2. less for more ( ขายน้อยกำไรมาก ) เป็น nice market ซึ่ง ผู้ประกอบการหลายท่านต้องการกันมากแต่ก็มีน้อยราย ตลาดมีคู่แข่งน้อย สินค้าตรงแค่กลุ่มที่ต้องการและกำลังซื้อที่สูง คือพูดง่าย อยากได้ไม่สนราคาว่า แล้วใครคือลูกค้าคนที่มีสินค้าในข้อนี้ ( ให้เดา )
ข้อ 3. less for less ( ขายน้อยกำไรน้อย ) ก็ข้อพอเพียง พอขายได้แต่ก็กำไรไปเรื่อย ๆเอื่อย ๆ แต่ก็อาจจะนานร่ำรวย สักหน่อย
ข้อ 4. more for more ( ขายมากกำไรมาก ) ก็ขายที ล็อตหนึ่ง 100 ตัน 1,000ตัน 10,000 ตัน จริงแล้วก็คล้าย หลักข้อที่หนึ่งเพียงแต่พี่ท่าน เหนื่อยรอบเดียว ที่ละมาก กำไรไม่มากอาศัยเต็มลำเรือ ต่อครั้ง
ทีนี้ท่านก็ทราบแล้วละว่า สินค้าของเราที่ผลิตขึ้น มันเหมาะมันตรงกับข้อไหน แต่..ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย ในการที่จะเพิ่มมูลค่าต่อตัวสินค้า นอกจากสินค้าที่ดีอยู่แล้ว การอับเกรดตัวสินค้า แพคเกจจิ้ง ถือว่าสำคัญมากด้วย.

abelsalestradeคำเตือน! บทความนี้สำหรับบุคคลทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการโปรดใช้วิจรนยาน.

เหน็บแนมอารมณ์ท่านมาที่ >> labelsaletrade@gmail.com
labelsaletrade.